เมื่อเปรียบเทียบการออกกฏการแข่งขันใหม่ในปีที่แล้ว ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดในรอบสี่ทศวรรษ รายการแข่งรถชั้นนำของโลกได้กำหนดเปลี่ยนกฏเล็กน้อยสำหรับเครื่องยนต์ในปีนี้ แต่ยังมีลูกเล่นใหม่อีกมากมายในปีนี้ เรามีการแข่งใหม่ที่แหวกแนวไปจากเดิม การแข่งแบบระยะสั้นเพิ่มระยะขึ้นเป็นสองเท่าตามกำหนดการ สถานที่เดิมที่เคยจัด และสนามใหม่ที่น่าลอง
ในช่วงแนวหน้า นักแข่งต้องไล่ตาม Max Verstappen ดาวเด่นของทีม Oracle Red Bull Racing อีกครั้ง ซึ่งเขาได้คว้าชัยชนะที่เฉียดฉิวในปี 2021 ด้วยการคว้ามแชมป์มาสเตอร์คลาส 15 รายการในฤดูกาลที่แล้วเพื่อรักษาตำแหน่งแชมป์อันดับ 1 จากนักแข่งคนอื่นๆทั่วมุมโลก 48นาที
Unfiltered: Horner and Newey Christian Horner and Adrian Newey took Red Bull to the very top. Go behind the steadfast F1 alliance.
ส่วน Sergio Pérez คู่หูร่วมทีม นักแข่งของเราที่คว้าชัยชนะไปได้ถึงสองครั้งในฤดูกาลที่แล้ว เขาก็ยังร่วมกับทีมเป็นฤดูกาลที่สามร่วมกับนักแข่งชาวดัตซ์ ในขณะที่ทีมลูกพี่ลูกน้องอย่างทีม Scuderia AlphaTauri ก็ยังมี Yuki Tsunoda ที่เข้าร่วมการแข่งเป็นครั้งที่สามร่วมกับเพื่อนร่วมทีมชาวดัตซ์ Nyck De Vries ในที่สุด De Vries ก็มีโอกาสได้ลงแข่งF1 ในวัย 28ปีหลังจากคว้ามแชมป์ในการแข่ง Formula 2 และ Formula E Pérezและ Verstappen ได้รับชัยชนะร่วมกัน 17 ครั้งในฤดูกาลที่แล้ว
© Getty Images/Red Bull Content Pool
ไม่แน่ใจใช่ไหมว่าต้องรูอะไรบ้างก่อนจะดู F1 ในฤดูกาล 2023? เรามีคำตอบที่ครอบคลุมด้านล่างนี้ …
01
What races are taking place in 2023? มีการแข่งขันอะไรบ้างในปี 2023? การแข่ง 23 สนามในปี 2023 นั้นเป็นฤดูกาลที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ 74 ปีของ F1 และคงจะนานกว่านั้นอีกหาก Chinese Grand Prix ไม่ถูกเลื่อนออกไปเป็นฤดูกาลที่สี่ติดต่อกัน ส่วน French Grand Prix ก็ได้ยกเลิกกำหนดการในปีนี้ ในขณะที่กาตาร์ – ก็กลับมาอีกครั้งหลังจากหายไปหนึ่งฤดูกาลหลังจากการแข่งขัน F1 ในปี 2021
การแข่งที่ใหญ่และสว่างไสวที่สุด? แลันั่นจะเป็นที่แข่งขันรอบสุดท้ายของฤดูกาลในลาสเวกัส จะจัดในคืนวันเสาร์ที่น่าตื่นเต้นซึ่งรถจะแข่งไปตาม 'Strip' ที่มีชื่อเสียงและมีความสวยงามจากแสงนีออน
02
การแข่งขันสุดสัปดาห์คืออะไร? คำถามนี้ตอบได้สองวิธี การแข่งสุดสัปดาห์แบบปกติและ Sprint Race weekend ;จะนับ 17 จากอดีตและหกจากหลัง
การแข่งสุดสัปดาห์ปกติจะเป็นการแข่งที่ทดสอบมาแล้ว; โดยนักแข่งจะมีเวลาฝึกซ้อม 60 นาที่ก่อนการแข่งรอบคัดเลือก ซึ่งจะกินเวลาหนึ่งชั่วโฒงและเริ่มต้นโดยการแข่งจากรถ 20 คันใช้เวลา18นาที่ และใน 18นาทีสุดท้ายนั้นนักแข่งที่ช้าที่สุดห้าอันดับจะถูกคัดออกจากรอบคัดเลือกและจะอยู่ในกริด 16-20 สำหรับการแข่ง
การแข่งรอบคัดเลือกนั้นสำคัญมากในการกำหนดตำแหน่งบนกริด
© Getty Images/Red Bull Content Pool
และอีกเซสชั่นที่ใช้เวลา 15 นาที; ในตอนท้าย รถห้าคันที่ช้าที่สุดจะต้องหยุดและจะไปอยู่ในกริด 11-15 สำหรับการแข่งขันในวันถัดไป จากนั้นเป็นการชิงความเป็นเจ้าแห่งความเร็วใน 12 นาทีสุดท้ายก็จะรู้ผลว่าใครจะอยู่อันดับ 1-10 บนกริด โดยมีตำแหน่งโพลโพสิชั่นเป็นเป้าหมาย
การแข่งขันในแต่ละสนามจะออกให้มีระยะทาง 305 กิโลเมตร/190 ไมล์ และคะแนนในการชิงแชมป์โลกจะจัดสรรตามลำดับตั้งแต่อันดับหนึ่งไปจนถึงอันดับ 10 ผู้ชนะจะได้ 25 คะแนน และคะแนนพิเศษจะถูกมอบให้แก่นักแข่งที่ทำรอบได้เร็วที่สุดในการแข่งขันหากพวกเขาสามารถจบได้ใน 10 อันดับแรก
จะมีการแข่ง Sprint มากขึ้นในปี 2023
© Getty Images/Red Bull Content Pool
ด้วยข้อยกเว้นการแข่ง Sprint 6 รายการที่เรากล่าวถึงก่อนหน้านี้ จึงใช้รูปแบบการแข่งเดียวกันยกเว้นมีแค่การซ้อมสองครั้งไม่ใช่สามครั้ง และผลการแข่งขันรอบคัดเลือกจะส่งผลกับอันดับในกริดสำหรับการแข่งขัน Sprint ในสุดสัปดาห์ซึ่งกินมีระยาทาง 100 กม./62 ไมล์ โดยมีสเกลเลื่อน คะแนนที่สำหรับที่หนึ่ง (8 คะแนน) จนถึงอันดับสุดท้าย (1คะแนน) ตำแหน่งสุดท้ายของการแข่งขัน Sprint จะกำหนดอันดับกริดสำหรับ Grand Prix ในอีก 24 ชั่วโมงต่อมา
F1 ไม่เคยมีการแข่ง Sprint มากกว่าสามครั้งต่อฤดูกาลตั้งแต่มีการริเริ่มการแข่งนี้ในฤดูกาลปี 2021; ส่วนในปีนี้ Grands Prix ในอาเซอร์ไบจาน ออสเตรีย เบลเยียม กาตาร์ สหรัฐอเมริกา (ออสติน) และบราซิล จะมีการแข่งในวันเสาร์ก่อนการแข่งขันหลักในวันอาทิตย์
03
มีอะไรเปลี่ยนแปลงในรถในปี 2023 บ้าง? ถ้าเทียบกับปีที่แล้วปีนี้ถือว่าเปลี่ยนน้อยกว่า มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากในปีนี้ ในปี 2021 มีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบของการแข่งขันฟอร์มูล่ามากเลยทีเดียว ถ้าคุณเทียบ F1 รุ่นปี 2021 และรุ่นปี 2022 ข้างๆกัน คุณจะเห็นถึงระดับของการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบซึ่งเกิดขึ้นในปีที่แล้ว โดยมีการเปลี่ยนขนาดยางจาก 13 นิ้วเป็น 18 นิ้ว เพื่อให้ดูแตกต่างไปจากรุ่นเก่าและความแปลกใหม่สำหรับการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน
ในปีนี้ จะเป็นเปลี่ยนเล็กน้อย มีขั้นตอนและขับให้ความปลอดภัยมากขึ้น
โครงร่างแอโรไดนามิกของรถ F1 ในปีที่แล้ว ได้สร้างแรงดึงดูดที่ช่วงล่างของรถเพื่อช่วยให้รถเข้าโค้งได้อย่างรวดเร็ว แต่ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่รถโยกขึ้นลงเนื่องจากกระแสอากาศได้เข้าออกอย่างต่อเนื่อง และเมื่อพื้นถนนมีการยกขึ้นลง ด้วยเหตุนี้ ในปีนี้เลยได้ทำการเพิ่มความสูงของพื้นรถ15 มม. ในปีนี้ และติดเซ็นเซอร์เอาไว้เพื่อวัดขอบเขตของการกระดอน
ความปลอดภัยของผู้ขับขี่เป็นสิ่งสำคัญในการออกแบบ F1
© FIA/Getty Images/Red Bull Content Pool
Roll-hoops – วงแหวนตัวUเหนือหัวคนขับ – ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งหลังจาก Zhou Guanyu ได้รอดจากอุบัติเหตใน Alfa Romeo ของเขาหลังจากการชนอันรุนแรงเมื่อตอนเริ่มต้นการแข่งขัน British Grand Prix ในฤดูกาลที่แล้ว ในขณะที่กระจกมองข้างคนขับได้ปรับให้กว้างขึ้นเพื่อช่วยในการมองเห็นสำหรับรถรุ่นใหม่ ที่แบนราบและเตี้ยกว่ารุ่นก่อนหน้า
ชมการเปิดตัวรถ RB19 F1 ของทีม Oracle Red Bull Racing Formula One แบบเต็มด้านล่าง:
การเปิดตัว Oracle Red Bull Racing ฤดูกาล 2023 ทีมของเรากลับมาที่สหรัฐอเมริกาอีกครั้งเพื่อเปิดตัวรถใหม่สำหรับการแข่งขัน Formula One ฤดูกาล 2023
04
มีใครย้ายทีมกันบ้างเรามาเช็คกัน มี 4ใน 10 ทีมที่ยังคงนักแข่งเดิมเช่น Alfa Romeo, Mercedes, Ferrari และ แน่นอน Oracle Red Bull Racing ในขณะที่หกทีมได้เปลี่ยนนักแข่งไปบ้าง
ในบรรดาหกทีมนั้น สามคนนั้นเป็น 'มือใหม่' สำหรับการแข่งF1 ซึ่งในปี 2023 McLaren ได้เซ็นสัญญากับอดีตแชมป์ F2 และ F3 Oscar Piastri เพื่อแทนที่ Daniel Ricciardo ชาวออสเตรเลียในฐานะเพื่อนร่วมทีมของ Lando Norris; ส่วน Ricciardo จะกลับมาร่วมทีมกับ Red Bull ในฐานะนักแข่งสำรอง
Ricciardo กลับมาสู่ Oracle Red Bull Racing อีกครั้ง
© Red Bull Racing/Red Bull Content Pool
และสำหรับทีม Williams Logan Sargeant ชาวฟลอริดาซึ่งได้ผ่านการแข่ง F2 จะมาเป็นคู่หูกับ Alex Albon ซึ่งเขาอายุเพียง 21 ปีและเป็นนักแข่งชาวอเมริกันคนแรกที่เป็นนักแข่งเต็มตัวในซีรีส์นี้นับตั้งแต่ Scott Speed เมื่อ 16 ปีที่แล้ว
'นักแข่งน้องใหม่' อีกคนก็คือ De Vries ผู้ที่ทำคะแนนได้อย่างยอดเยี่ยมในการปรากฏตัวเดี่ยวในการแข่งขันให้กับทีมวิลเลียมส์ในอิตาลีเมื่อปีที่แล้วที่แข่งแทนอัลบอนตอนที่เขาไม่สบาย
ฤดูกาลใหม่, ชุดใหม่สำหรับ Nyck de Vries
© Getty Images/Red Bull Content Pool
และในบรรดาใบหน้าที่เราคุ้นเคยอยู่แล้วเริ่มด้วย Fernando Alonso อดีตแชมป์โลก 2 สมัยที่ย้ายทีมจาก Alpine ไป Aston Martin เพื่อแทนที่ Sebastian Vettel ที่วางมือ ในขณะที่ Pierre Gasly อดีตผู้ชนะการแข่งขัน AlphaTauri ก็ก้าวเข้ามาที่ Alpine เพื่อก่อตั้งทีมสายเลือดฝรั่งเศสกับ Esteban Ocon และสำหรับทีม Haas ก็ได้ Nico Hulkenberg ผู้มากประสบการณ์ในวงการ F1 ที่เริ่มงานกับทีมที่หกของเขาและได้ Kevin Magnussen ชาวเยอรมันที่เป็นนักแข่งสำรองสำหรับ Aston Martin เมื่อปีที่แล้ว
05
การทดแข่งรอบพรีซีซั่นบอกอะไรเราบ้าง? สำหรับข้อแรก คือการแข่งสามวันด้วยรถเพียงหนึ่งคันสำหรับหนึ่งทีมและนักแข่งสองคน และทีมที่เรามั่นใจว่าต้องเป็นตัวเต็งมักไม่อยากแสดงฝีมือให้ดู ในขณะที่ทีมที่ช้ากว่าจะแสดงฝืมืออย่างเต็มที่อาจจะเอาไว้ดึงดูดสายตาสปอนเซอร์ต่างๆ หรือไม่แน่อาจจะกำลังท้าทายกับเรา ซึ่งมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วและมันจะไม่เกิดขึ้นอีก…
Verstappen พร้อมแล้วสำหรับปี 2023
© Getty Images/Red Bull Content Pool
การปรับจูนในบาห์เรน
© Getty Images/Red Bull Content Pool
และก็มีการเตือนตามปกติสำหรับทีมที่เติมเชื้อเพลิงในขณะที่เครื่องยังติดอยู่และทีมไหนที่อยู่อัฒจรรย์ข้างๆกัน แต่สิ่งที่เรารู้ก็คือ RB19 รถรุ่นใหม่ล่าสุดของ Red Bull วิ่งได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงได้ตลอดการทดสอบ และ Verstappen รู้สึก "พอใจมาก" และ "อุ่นใจ" หลังจากขับไปแล้วกว่า 204 รอบในสองวัน
Ferrari รอบนี้ดูสดใส โดยเฉพาะการวิ่งทางตรง ในขณะที่รถของ Mercedes ที่ทำ porpoising ในปี 2022 ก็ดูปรับปรุงให้ดีขึ้นแล้ว. ส่วนทีม Aston Martin กำลังประสบปัญหาเมื่อเพื่อนร่วมทีมของ Alonso Lance Stroll ที่พลาดการแข่งทดสอบหลังจากได้รับการบาดเจ็บที่ข้อมือจากอุบัติเหตุเมื่อสัปดาห์ก่อน
การทดสอบของ Verstappen ในบาห์เรน
© Getty Images/Red Bull Content Pool
สนามแรกที่บาห์เรนและอีก 22 Grands Prix ที่ตามมา และนั่นคือสิ่งที่เราจะได้เห็นภาพอย่างสมบูรณ์ว่า F1 ในปี 2023 จะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร อย่ารับชมการแข่งในทุกรายการเลยนะ...
ดาวน์โหลดแอป Red Bull TV ได้ฟรีและดูการทุกความเคลื่อนไหวบนอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ!