F1
5 เรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ Max Verstappen
Max Verstappen คือแชมป์โลก Formula 1 สี่สมัย มาทำความรู้จักนักขับฉายา 'the flying Dutchman' ให้มากขึ้นกับ 5 ข้อเท็จจริงสำคัญเกี่ยวกับตำนาน F1 ผู้ไม่เคยยอมใคร
ในเดือนพฤศจิกายนปี 2024 ท่ามกลางแสงไฟเจิดจ้าของลาสเวกัส Max Verstappen คว้าแชมป์โลก Formula 1 สมัยที่ 4 ติดต่อกัน ตอกย้ำตำนานของเขาในฐานะหนึ่งในนักขับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการกีฬา เส้นทางอาชีพที่ทำลายสถิติ ความมุ่งมั่นที่ไม่เคยลดละ และสไตล์อันโดดเด่นทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก อยากรู้ไหมว่าอะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จของนักขับชาวดัตช์ผู้นี้? นี่คือ 5 ข้อเท็จจริงที่สนุกและน่าทึ่งเกี่ยวกับแชมป์ F1 คนปัจจุบัน!
01
เขาคือผู้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งวงการ F1
หลังจากเซ็นสัญญากับ Red Bull Junior Team ในเดือนสิงหาคมปี 2014 Max ได้เดบิวต์ใน F1 กับทีม Toro Rosso หรือ AlphaTauri ในปัจจุบัน ในรอบซ้อม (Free Practice) ของการแข่งขัน Japanese Grand Prix ปี 2014 ด้วยวัยเพียง 17 ปีกับอีก 3 วัน ทำให้เขากลายเป็นนักขับที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน F1 ในสุดสัปดาห์นั้น เขาลงแข่งครั้งแรกในฐานะนักขับที่อายุน้อยที่สุดตลอดกาลในการแข่งขัน Australian Grand Prix ปี 2015 ด้วยวัย 17 ปีกับ 166 วัน และอีกสองสัปดาห์ต่อมา เขาก็กลายเป็นนักขับที่อายุน้อยที่สุดที่ทำคะแนนสะสมชิงแชมป์โลกได้ (17 ปีกับ 180 วัน) โดยจบอันดับที่ 7 ในการแข่งขัน Malaysian Grand Prix
หนึ่งปีต่อมา เขาคว้าชัยชนะครั้งแรกใน F1 ในการเดบิวต์กับทีม Red Bull Racing ในการแข่งขัน Spanish Grand Prix ปี 2016 โดยขึ้นไปยืนบนโพเดี้ยมสูงสุดด้วยวัย 18 ปีกับ 228 วัน นั่นทำให้เขากลายเป็นผู้ชนะการแข่งขันที่อายุน้อยที่สุดใน F1 และในขณะเดียวกันก็เป็นนักขับที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ขึ้นโพเดี้ยม ระหว่างการแข่งขัน เขายังกลายเป็นนักขับที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เป็นผู้นำการแข่งขัน F1 อีกด้วย ในการแข่งขัน Brazilian Grand Prix ปี 2016 เขากลายเป็นนักขับที่อายุน้อยที่สุดที่ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุด (19 ปีกับ 44 วัน) กรอไปข้างหน้าสู่ปี 2021 ในการแข่งขัน Austrian Grand Prix ซึ่ง Max กลายเป็นนักขับที่อายุน้อยที่สุดที่ทำ Grand Chelem ได้ (23 ปีกับ 277 วัน) โดยคว้าทั้งตำแหน่งโพลโพซิชั่น, ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด และคว้าชัยชนะ พร้อมทั้งนำการแข่งขันในทุกๆ รอบที่ Red Bull Ring
สถิติอื่นๆ ที่มีชื่อของ Verstappen จารึกไว้ ได้แก่ ชัยชนะมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล (19 ครั้งในปี 2023) และด้วยเหตุนี้จึงมีคะแนนชิงแชมป์มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล (575 คะแนนในปี 2023), ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ F1 (1 นาที 18.792 วินาที ที่มอนซาในปี 2025) และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งคุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
02
เขาเคยสร้างสถิติคว้าชัยชนะติดต่อกันอย่างยาวนาน
ในฤดูกาลเดบิวต์ของเขาในการแข่งขัน F3 European Championship ปี 2014 Max คว้าชัยชนะไปถึง 7 สนามกับทีม Van Amersfoort Racing และได้รับการเซ็นสัญญาอย่างรวดเร็วโดย Helmut Marko เข้าสู่ Red Bull Junior Team เกือบทศวรรษต่อมา เขาก็กลับมาสร้างสถิติคว้าชัยชนะอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง โดยทำลายสถิติของ Sebastian Vettel ที่ชนะติดต่อกัน 9 ครั้งในการแข่งขันชิงแชมป์โลก เมื่อเขาคว้าชัยชนะครั้งที่ 10 ที่มอนซาในปี 2023 เขายังทำสถิติเทียบเท่าได้อย่างมีสไตล์ในการแข่งขันก่อนหน้านั้น โดยคว้าชัยชนะอย่างขาดลอยท่ามกลางสายฝนในการแข่งขันโฮมเรซของเขาที่ Circuit Zandvoort สร้างความยินดีให้กับแฟนๆ ชาวดัตช์ที่เข้าร่วมชมเป็นอย่างมาก
Jos Verstappen has mentored his son Max since he was four years old
© Mark Thompson/Getty Images/Red Bull Content Pool
03
เขาเติบโตมาในพิตแพดด็อก
พ่อของ Max Verstappen เคยเป็นนักขับชาวดัตช์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใน F1… แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะตำแหน่งนั้นตกเป็นของ Max เอง พ่อของ Max คือ Jos 'The Boss' Verstappen ซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกับ Michael Schumacher ที่ Benetton และลงแข่งขันใน Formula 1 เป็นเวลาแปดปี คว้าโพเดี้ยมไปได้สองครั้ง แต่เขาเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากเหตุการณ์รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์จากไฟไหม้ในพิตที่ Hockenheim ในปี 1994 อันที่จริงแล้ว แม่ของ Max อย่าง Sophie Kumpen ก็เป็นนักแข่งรถที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน โดยเธอเคยลงแข่งขันในลีกรองๆ กับ Jenson Button, Giancarlo Fisichella และแม้แต่ Christian Horner ในวัยหนุ่ม
แม้จะอยู่ใน F1 แต่ Jos ก็อุทิศเวลาว่างให้กับการสอน Max แข่งรถ บ่มเพาะพรสวรรค์ของเขาตั้งแต่อายุสี่ขวบโดยทำหน้าที่เป็นทั้งพี่เลี้ยง, ผู้จัดการ และหัวหน้าช่างเครื่อง เขาจับมือกับ Richard Pex ซื้อรถบ้าน แล้วออกเดินทางไปกับ Max, Richard และลูกชายสามคนของเขา Yard, Jorrit และ Stan เพื่อไปแข่งขันรถคาร์ทที่อิตาลีซึ่งเป็นศูนย์กลางของวงการ “เราไปทุกที่ด้วยกัน” Jos กล่าว “และเราก็มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นเรื่อยๆ เราจูนเครื่องยนต์เพื่อสร้างมาตรฐานการทดสอบ แล้วเราก็จะขับรถไปกลับอิตาลี ซึ่งเป็นเมกกะของวงการรถคาร์ทอยู่ตลอดเวลา เพื่อไปซื้ออุปกรณ์” พี่น้องตระกูล Pex ยังคงเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของ Max มาจนถึงทุกวันนี้
04
เขายังเป็นดาวเด่นในโลกของการแข่งรถเสมือนจริงอีกด้วย
นอกเหนือจากค็อกพิต F1 และเครื่องซิมูเลเตอร์ที่สำนักงานใหญ่ของ Red Bull Racing ในมิลตัน คีนส์แล้ว Max ยังสนุกกับการเล่นเกมและเข้าร่วมการแข่งขันอีสปอร์ต โดยแข่งทั้งเกม Formula 1 อย่างเป็นทางการ รวมถึงเกมแข่งรถจำลองอย่าง iRacing เขาจับมือกับ Team Redline ซึ่งเป็นแชมป์โลก iRacing ทีมแรก และคว้าแชมป์ Virtual Le Mans Series ในปี 2019 รวมถึงชัยชนะในการแข่งขัน Virtual 24 Hours of Spa โดยมี Lando Norris ร่วมขับด้วย
05
เขามีสองสัญชาติ – และมีบ้านหลายแห่ง
แม้ว่า Max Verstappen จะลงแข่งขันภายใต้ใบอนุญาตของเนเธอร์แลนด์ แต่ Verstappen เกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 1997 ที่เมืองฮัสเซลท์ ประเทศเบลเยียม และมีสองสัญชาติคือดัตช์และเบลเยียม ดังนั้นทั้ง Dutch Grand Prix และ Belgian Grand Prix จึงถือเป็นโฮมเรซของแชมป์โลกผู้นี้ เขาอาศัยอยู่ที่โมนาโกและใช้ชีวิตในวัยเด็กส่วนใหญ่ที่ราชรัฐแห่งนี้ ทำให้ Monaco Grand Prix เป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเขา
Red Bull Racing แข่งขันภายใต้ธงชาติออสเตรีย ซึ่งหมายความว่า Red Bull Ring ก็เป็นสนามที่คุ้นเคยสำหรับอดีตนักขับจาก Red Bull Junior Team คนนี้เช่นกัน นอกจากนี้ Red Bull Racing ยังมีฐานอยู่ที่มิลตัน คีนส์ ในสหราชอาณาจักร ทำให้ British Grand Prix เป็นโฮมเรซอย่างไม่เป็นทางการสำหรับทีม
06
เกร็ดความรู้น่ารู้:
อาหารจานโปรดของเขาคือซุปมะเขือเทศ